เมื่อสัมผัสทางใจบกพร่อง ก็ต้องเติมเต็ม

โดย ศ.สุมน อมรวิวัฒน์
หนังสือพิมพ์มติชน ฉบับประจำวันที่ 30 ธันวาคม 2549

สรรพสัตว์ทั้งหลายมีการสื่อสาร คือ ส่งสารและรับสารต่อกันตลอดเวลา อีกทั้งยังสื่อสารกับสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติและเทคโนโลยีอีกด้วย

คนเรามีสื่อรับสัมผัส คือ ตา-เห็นรูป หู-ได้ยินเสียง จมูก-ได้กลิ่น ลิ้น-ได้รส กาย-ได้กระทบความเย็นร้อนอ่อนแข็ง และสัมผัสใจ ที่จะรับรู้อารมณ์ ความรู้สึก จิตสำนึกทั้งปวง

มีคนจำนวนหนึ่งที่บกพร่องทางการเห็น บกพร่องทางการได้ยิน และบางครั้งบกพร่องทางสติปัญญาหรือทางสมอง ซึ่งสมควรได้รับการพัฒนาอย่างถูกวิธี เพื่อให้เขาได้รับรู้และเรียนรู้ จนสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุข จากประสบการณ์ของผู้เขียน พบว่า ผู้ที่มีความบกพร่องทางกายนั้น เขามีสัมผัสทางใจที่ดี มีความสามารถทางดนตรี ศิลปะ มีจินตนาการ และสามารถสื่อสารสิ่งที่เขาคิดอย่างน่าชื่นชม บางครั้งผู้เขียนรู้สึกว่าเขามีญาณวิเศษ แม้จะมองไม่เห็นและไม่ได้ยินเสียงใดๆ แต่เขารู้ว่าใครชอบใครชัง รู้ว่าใครหวังดี ใครประสงค์ร้ายต่อเขา เขาสัมผัสได้ รับรู้ได้ด้วยใจ

คนอีกจำนวนหนึ่ง มีร่างกายสมบูรณ์พร้อม แต่ใจของเขาหมกมุ่นอยู่กับตนเอง จนมองไม่เห็น ไม่ได้ยิน เสียงและสิ่งต่างๆ ที่เคลื่อนไหวอยู่รอบข้าง ซึ่งอาจเป็นปรากฏการณ์เล็กๆ ไปจนถึงเรื่องคอขาดบาดตาย

การรับรู้เริ่มต้นที่ใจ และอาศัยฐานความรู้ที่มีอยู่มาปรุงแต่งให้เกิดความคิดและจิตสำนึก จนสมองสั่งการให้มีพฤติกรรมต่างๆ สัมผัสทางใจที่เกิดธรรมารมณ์ ช่วยเสริมสร้างการกระทำที่ดีและมีประโยชน์ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการฝึกฝนตนเองให้สนใจ ใคร่รู้ และมีเมตตาต่อคนและธรรมชาติแวดล้อม

กาลครั้งหนึ่ง มีสุนัขตัวหนึ่งผอมโซ เดินหลงขึ้นไปบนทางด่วน รถวิ่งเร็วผ่านเฉียดมันไปคันแล้วคันเล่า คนขับบางคนเห็นมัน แต่บางคนก็ไม่เห็น บางคนเห็นมันวิ่งหลบรถละล้าละลัง มันวิ่งไปอย่างไม่รู้ทิศทาง วิ่งหลงไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ผู้เขียนเชื่อว่า คนในรถหลายคันรู้สึกสงสาร อยากช่วยเหลือสุนัขตัวนั้น แต่ก็ไม่สามารถหยุดรถ แล้ววิ่งลงไปจับมันได้ สถานการณ์บนทางด่วนไม่เอื้อต่อความประสงค์ดีนั้น ความสงสารไม่ได้ช่วยอะไรเลย

ในที่สุด ภาพสุนัขหลงทางด่วน กระทบใจคนในรถคันหนึ่ง เขารู้สึกว่า จะปล่อยให้มันวิ่งอยู่อย่างนั้น มันต้องตายแน่ และซากของมันจะทำให้เกิดอุบัติเหตุ เพราะรถวิ่งกันเร็วเหลือเกิน เขารีบโทรศัพท์ถึงศูนย์ทางด่วนฉุกเฉิน เจ้าหน้าที่ใช้รถ ๒ คัน สกัดมันไว้ และจับมันใส่รถเอาไปปล่อยตรงสวนป่าด้านล่าง

สัมผัสที่ใจนั้นมีความแรงและฐานการรับรู้ไม่เท่ากัน บางคนมีสัมผัสใจที่ไวและแรงทั้งในทางบวกและในทางลบ ในทางบวกนั้นเป็นกุศลจิต ทางลบเป็นไปทางอกุศลจิต ปลุกเร้าให้เกิดพฤติกรรมที่ดีและชั่ว ยิ่งเมื่อใช้ธรรมะเป็นฐาน ก็ยิ่งทำให้เกิดผลอันเจริญไพบูลย์

เรื่องเล็กๆ อย่างสุนัขหลงบนทางด่วน อาจจะไม่เกิดผลกระทบทางใจที่แรงพอ ผู้คนผ่านมันมาแล้วก็ผ่านเลยไป ด้วยเหตุผลที่คิดว่ามันไม่เกี่ยวกับตนเอง

ลองคิดถึงเรื่องใหญ่ๆ ที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองของเราดูบ้าง เหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นในภาคใต้ โรงเรียนที่ถูกเผาลามไปถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือครั้งแล้วครั้งเล่า น้ำท่วมที่นำความทุกข์อย่างยิ่งมาสู่พี่น้องภาคเหนือและภาคกลาง แผ่นดินไหว ไฟไหม้ และคลื่นลมที่ทำลายชีวิตทรัพย์สินในพริบตา ภาพข่าวที่คน ๗ คนรุมซ้อมคนคนเดียวจนสลบ แล้วก็เดินจากไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พฤติกรรมทางเพศที่เสี่ยงรุนแรงของวัยรุ่น ฯลฯ เราเห็น เราฟัง เรารับรู้ ด้วยความรู้สึกที่เย็นชาหรือเปล่า เราได้แยกตนออกจากเหตุการณ์เหล่านั้นหรือไม่ ความคิด และความรู้สึกที่มากระทบใจ เกิดขึ้นแล้วก็ดับไปเช่นนั้นหรือ?

ผู้เขียนรับรู้ว่า สัมผัสใจที่เรารับไว้มันแรงพอที่จะกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกร่วมในความทุกข์ร้อนของผู้คน เกิดจิตสำนึกที่จะอาสามีส่วนช่วยผู้อื่นให้บรรเทาความยากเข็ญ อยากส่งเสียงให้ทุกคนเข้าใจความหมายของการเตือนจากธรรมชาติ และมุ่งหวังที่จะช่วยหยุดห้ามล้อที่กำลังหมุนแรงด้วยความลืมตัวหลงผิด และแข่งขันกันเพื่อเงินและอำนาจอย่างเอาเป็นเอาตาย

ธรรมชาติกำลังส่งความหนาวเย็นมาสัมผัสกายเราแล้ว อีกไม่นานก็จะแปรเปลี่ยนเป็นความร้อนแล้ง จนอารมณ์คนแทบจะคลั่ง สัมผัสทางกายอาจแก้ไขได้ไม่ยาก ไม่ว่าจะร้อนหรือหนาว แต่สัมผัสใจที่เศร้าหมอง ทุกข์ร้อน ว้าเหว่ สงสาร เคียดแค้น จำเป็นต้องแก้ไขด้วยสติ และใช้ปัญญา มีสำนึกเมตตาและกรุณาต่อกัน

ผู้ที่สัมผัสทางใจบกพร่อง จึงเป็นคนใจบอด หมกมุ่นเอาแต่ใจตนเอง ฝังใจไว้กับทุกข์สุขของตนเท่านั้น โดยปราศจากการรับรู้และเข้าใจทุกข์สุขของเพื่อนร่วมโลก คนใจบอดจึงมีชีวิตที่โดดเดี่ยวท่ามกลางฝูงชนและสรรพสิ่งรอบกาย

ในวันที่ท่านอ่านบทความนี้ เป็นวันวารแห่งความรื่นเริงบันเทิงใจ อากาศเย็นสบาย ดอกไม้บานสวยสด ได้ยินแต่เสียงเพลงไพเราะ เสียงสรวลเสเฮฮา และความสุขที่ส่งมอบให้แก่กัน ทั้งที่เป็นนามธรรมและสิ่งของที่มีทั้งคุณค่าและราคา

ผู้เขียนได้รับกล่องของขวัญเล็กๆ เป็นขวดซุปไก่เปล่าๆ ที่ล้างสะอาดใส ใช้เชือกปอหรือป่านก็ไม่แน่ แต่เส้นเล็กมาก สีสวย พันสลับสีรอบๆ ขวด ดูงดงามอย่างยิ่ง

ขวดใส่ดินสอขวดนี้ได้สัมผัสที่ใจผู้เขียน เป็นของขวัญที่บ่งบอกว่าผู้ให้ตั้งใจทำด้วยรักและผูกพัน ตรงกันข้ามกับบัตรอวยพรที่สวยหรูแผ่นหนึ่ง ที่ผู้ส่งไม่ได้ลงนามเอง แต่คงให้ลูกน้องประทับตรายางลงชื่อ ส่งตามรายชื่อที่ทำไว้เป็นประจำปี บัตรนั้นก็เป็นเพียงกระดาษแผ่นหนึ่ง ไม่ประทับใจ

วันขึ้นปีใหม่ เป็นวันที่ผู้คนมีโอกาสสัมผัสใจกันได้มากที่สุด ขอให้เราช่วยกันเติมเต็มความรักและความเมตตาต่อกัน สัมผัสความห่วงใย ความเข้าใจ ที่เราเป็นผู้ให้และเป็นผู้รับ เปิดใจให้แสงสว่างทางปัญญาซึมแทรกลงไปทุกอณู เพียรพยายามรับรู้สิ่งที่ธรรมชาติสั่งสอนและส่งสัญญาณเตือน

  • เพื่อสรรพสิ่งจะสัมพันธ์กันอย่างสันติ
  • เพื่อส่งและรับความห่วงใยจากใจหนึ่งไปสู่หลายใจ
  • เพื่อจิตสำนึกที่จะอาสารับใช้ สืบงานสานต่อภารกิจของครอบครัว ขององค์กร ของหมู่ชน ของบ้านเมือง
  • เติมเต็มกำลังใจ ลดความขุ่นข้อง ปรารถนาดีต่อกัน
  • เริ่มในวันอรุณของปีใหม่นี้ และตลอดไป

Back to Top