มนุษย์จำเป็นต้องมีจิตขนาดใหญ่
เพื่อที่จะบรรจุความเมตตา ความกรุณา
อันไม่มีที่ประมาณไว้ได้
โดย วิจักขณ์ พานิช
หนังสือพิมพ์มติชน ฉบับประจำวันที่ 9 มกราคม 2553
กระบวนการเรียนรู้ใจตัวเองเป็นเรื่องแปลก แปลกที่ว่าหากเผลอเมื่อไร ใจเราก็มักจะสร้างคอกของ “ความรู้ (แล้ว)” ไว้เป็นหลักอ้างอิงให้กับตัวมันเองอยู่เสมอๆ ความรู้ที่ว่านี้อาจใช้การได้ดี และอาจขายได้อยู่พักใหญ่ แต่ไม่นานนักความรู้ก็จะกลายเป็นอุปสรรคอย่างยิ่งยวดต่อกระบวนการเรียนรู้ของใจ
ธรรมชาติของใจไม่มีคอก ไม่มีขอบเขตแม้กระทั่งเรื่องของความถูกผิด นั่นคือเหตุที่ว่าทำไมใจจึง (ง่าย) งาม ใจจึง (ปกติ) ดี และใจจึงกว้างขวางยิ่งนัก จนเราสามารถไว้วางธรรมชาติของใจได้อย่างไม่มีเงื่อนไข ทั้งนี้ขอเน้นย้ำว่าเราไว้วาง “ใจ” ไม่ใช่เอาใจไปวางไว้ (ในคอก)
คอกที่ว่านี้มีด้วยกันหลายรูปแบบ ความร่ำรวยมีชื่อเสียง เกียรติยศ ปริญญา สถานะ ความเด่น ความดัง และความสำเร็จ ถือเป็นคอกลักษณะหนึ่งที่เราชอบเอาใจไปวางไว้ ของรักของชอบ ความสุข ความสมหวังในชีวิต และเพื่อนฝูง ก็เป็นอีกลักษณะหนึ่ง และอีกแบบหนึ่งที่ลึกซึ้งขึ้นไป ก็คือเรื่องของความรู้ความเข้าใจ สติปัญญา และความดี (ความงามและความจริง) ที่ยิ่งใจเดินทางไปไกลมากเท่าไร คอกเจ้ากรรมก็ดูจะมีความเจ้าเล่ห์ยิ่งขึ้น ดูดียิ่งขึ้น เชื้อชวนและชวนเชื่อยิ่งขึ้น จนเราอดไม่ได้ที่จะพักใจไปวางไว้ในคอก แต่หากเรายังรู้ใจตน นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาที่มืดมนอะไร
ใจของแต่ละคนผ่านการเดินทางมาแสนยาวนาน พักบ้าง ตื่นบ้างไปตามเรื่องตามราว ทว่าความสุขสูงสุดทางจิตใจ คือการที่ใจได้เรียนรู้ที่จะปลดโซ่ตรวนที่ล่ามอิสรภาพของใจไปทีละน้อย ชั่วขณะของความสุขทางจิตวิญญาณ คือการที่เราได้เข้าไปสัมผัสสายลมแห่งอิสรภาพที่ผ่านพัด และการเดินทางก็ยังมีต่อไปด้วยความโหยหาของใจที่จะเข้าถึงอิสรภาพโดยสมบูรณ์ สู่ธรรมชาติเดิมแท้ของใจที่ไร้การปรุงแต่ง ดังนั้นแม้เราจะแอบเอาใจไปพักไว้ในคอกบ้างเป็นครั้งคราว แต่เมื่อใดที่เราได้กลับมารู้ใจตัวเองแล้ว เราก็ควร “ออกนอกคอก” เสีย แล้วเดินทางต่อ
การเรียนรู้ด้วยใจอย่างใคร่ครวญ คือการบ่มเพาะความเชื่อมั่นของ “ใจนอกคอก” ดวงนี้ ด้วยความรู้จิตรู้ใจของตัวเอง เคราะห์ดีที่เราๆ เกิดมาเป็นคนที่มีร่างกาย เราจึงไม่ต้องมัวดูดาย นิ่งดูใจไปอย่างแอบๆ และแอ็บสแตรค การรู้จิตรู้ใจจึงฝึกฝนกันได้แบบคนเดินดินธรรมดา ด้วยการบ่มเพาะความรู้เนื้อรู้ตัว ที่ทำให้ใจนอกคอกดวงนี้ปกติตั้งมั่น จนรู้ทันตัวเองได้ในทุกย่างก้าว
และเมื่ออุตส่าห์ลงมาเดินดินกันแล้ว ไม่ว่าความเป็นคนมันจะดูห่วยขนาดไหน มันจะเจ็บขนาดไหน มันจะร้อนรุ่มขนาดไหน มันจะซาบซ่านขนาดไหน มันจะหลงไปไกลใครบ่นอะไรก็ไม่ได้ยิน สิ่งเร้าเข้ามากระทบ อารมณ์ผุด ความรู้สึกโผล่ หรือแม้แต่ความโหยหา ความปรารถนา ตัณหาราคะ ความโกรธ ความเกลียด อิจฉาริษยา อยากจะฆ่าใคร ก็ไหนๆ เหตุปัจจัยก็เอื้อให้สิ่งเหล่านี้ที่ยังคงเหลืออยู่ในใจ ได้ขึ้นมาให้เราเห็นกันจะๆ แล้ว เราจะมัวหนีไปไย แล้วเราจะไปเอาคอกที่ไหนมากดเก็บและกีดกันภาวะเหล่านี้เพื่อจะได้เอาใจไปเก็บใส่ไว้อีก
บางคนอาจจะกล้าๆ กลัวๆ แล้วแก้ตัวไปขุ่นๆ ว่า “ก็เข้าใจอ่ะนะ แต่เอาเป็นว่าฉันจะลองมองหาคอกดีๆ ก็แล้วกัน” คอกที่ดูดีจึงถือกำเนิดขึ้นเพื่อเอาไว้ผูกใจที่กล้าๆ กลัวๆ เป็นภาวะของความกึ่งดิบกึ่งดีทางปัญญาที่ดูเผินๆ ออกจะน่าหลงใหลอยู่ไม่น้อย ทว่ายิ่งคอกดีมากเท่าไร ใจก็ดูจะยิ่งถูกปิดกั้นจากการรู้ใจตนมากเท่านั้น
การเรียนรู้ของใจจะเกิดขึ้นได้ ก็แต่ในคอกห่วยๆ เท่านั้น คอกที่มีขึ้นเพียงชั่วคราวบนรากฐานของความเข้าใจในความยิ่งใหญ่ของ “ใจนอกคอก” คอกที่คอยโอบอุ้มให้ใจที่กล้าๆ กลัวๆ ได้รู้จักความกล้าและความกลัวตามที่เป็น ไม่มีมาตรฐานผ่านเกณฑ์ ไม่มีกดดันบีบคั้น ไม่มีรางวัล พันธสัญญา หรือปริญญาบัตร (หรือหากจะมีก็มีไปขำๆ) เพราะจิตวิญญาณแห่งการแสวงหา คือการเข้าถึงใจตน ไม่ใช่ไปเอาใจใคร เป็นการเรียนรู้เพื่อเข้าใจ ไม่ใช่การเรียนรู้เพื่อเอาใจ (หรือเอาแต่ใจ) คอกห่วยๆ จึงสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ยิ่งห่วยเท่าไรก็ยิ่งดี เป็นคอกห่วยดีที่หลวม สด ดิบ ง่าย ไม่ซับซ้อน พร้อมที่จะถูกแหกออกเพื่อหลีกทางให้กับใจนอกคอกได้ออกไปโลดโผนยามที่ใจพร้อม หากคอกเกิดพัฒนาเป็นศูนย์การเรียนรู้ด้วยใจอะไรขึ้นมา ก็น่าจะอ่อนน้อมถ่อมตัวเป็น “ศูนย์นอกคอก” ที่รวมความหลากหลายของใจทั้งในคอกและนอกคอก ใจในคอกที่ยอมรับถึงข้อจำกัดของใจตน จนไม่ยกตัวตนไปข่มใคร และไม่พยายามเอาใครมาใส่คอก และใจนอกคอกที่เห็นใจเหตุปัจจัยภายในคอก สื่อสาร สัมพันธ์ บนรากฐานของความจริงใจ จนเส้นแบ่งระหว่างนอกและในหายไปจนศูนย์ไม่กลายเป็นคอก
แล้วการเรียนรู้ของใจก็จะเดินทางต่อไป บนหนทางแห่งความไม่รู้ (แล้ว) ที่ยิ่งก้าวไป ใจก็ยิ่งอ่อนน้อม พร้อมที่จะเผชิญกับทุกภาวะ ทุกผู้คน ทุกเหตุการณ์ ทุกปัญหา ทุกความสับสน ทุกสุข ทุกทุกข์ ที่ผ่านเข้ามาอย่างรู้ใจตน เกิดเป็นความเข้าใจขึ้นทีละเล็กทีละน้อย ก่อเกิดเป็นแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ ไม่ใช่เพื่อไทย เพื่อใคร หรือเพื่ออะไร ไม่มีเป้าหมาย ไม่มีอะไรทั้งนั้น มีก็แต่เพียงเส้นทางของ “การเรียนรู้ด้วยใจ” อย่างที่ไม่มีคอกใดจะเอาอยู่
แสดงความคิดเห็น