ร้อยเรียงการเรียนรู้จากสึนามิ

โดย จุมพล พูลภัทรชีวิน
หนังสือพิมพ์มติชน ฉบับประจำวันที่ 15 มกราคม 2548

เมื่อคลื่นคลั่งถั่งโถมมหาศาล ธรรมชาติส่งสัญญาณผ่านความหมาย
ว่าความรักความสุขและความตาย เป็นรอยร่วมเรียงรายใกล้ชิดกัน
เสี้ยวนาทีที่พบก็พลัดพราก แม้ยามยากมีมิตรจิตปลอบขวัญ
เราเป็นเพื่อนร่วมทุกข์อยู่ทั้งนั้นรู้เท่าทันอย่าท้อก้าวต่อไป


สุมน อมรวิวัฒน์

********


แม้ต้นไม้จะถูกไฟป่าเผาผลาญจนดำราวกับถ่าน แต่ก็ไม่ยอมล้มหรือตายง่ายๆ เมื่อวันและเดือนผ่านไป ใบอ่อนก็ทยอยกันผลิออกมา ขณะที่ลำต้นก็ค่อยๆ กร้านแกร่ง และยอดก็ทะยานสูงขึ้นเรื่อยๆ ชีวิตนั้นไม่เคยยอมแพ้ต่อภัยคุกคามใดๆ หากรอเวลาที่จะหยัดยืนขึ้นใหม่ด้วยความเข้มแข็งยิ่งกว่าเดิม วันนี้แม้เราจะล้มเพราะถูกทุกข์กระหน่ำ แต่ขอให้มั่นใจว่าพรุ่งนี้เราจะสามารถลุกขึ้นได้ใหม่ ไม่มีทุกข์ภัยใดๆ ที่จิรังยั่งยืน ไม่มีราตรีใดที่มืดมนไปตลอด ขอเพียงแต่เราอดทน รู้จักรอคอย มีศรัทธาในชีวิต ระดมสติและปัญญาเพื่อเป็นพลังให้แก่จิตใจ ไม่นานวันใหม่ย่อมมาถึง ทุกข์ภัยย่อมหมดไป แล้ววันนั้นเราจะแย้มยิ้มได้อีกครั้งหนึ่งด้วยใจที่มั่นคงกว่าเดิม

พระไพศาล วิสาโล

********


มหาวิปโยคกับจิตวิวัฒน์

แผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์แห่งอันดามัน เมื่อวันที่ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๔๗ ได้ก่อให้เกิดความสูญเสียชีวิตของผู้คนจำนวนมากมหาศาล บางคนสูญเสียพ่อ สูญเสียแม่ สูญเสียลูก สูญเสียสามี สูญเสียภรรยา หรือสูญเสียทั้งหมด การพลัดพรากจากคนที่รักเป็นทุกข์อย่างยิ่ง

ถ้าที่ใดมีทุกข์ แล้วมีการร่วมทุกข์ ความทุกข์จะบรรเทาเบาบางลง

มหาวิปโยคแห่งอันดามันได้ก่อให้เกิดการหลั่งไหลของน้ำใจอย่างท่วมท้น เหมือนดังพระราชนิพนธ์ ร.๖ ที่ว่า
"อันว่าความกรุณาปรานี จะมีใครบังคับก็หาไม่
หลั่งมาเองเหมือนฝนอันชื่นใจ จากฟากฟ้าสุราลัยสู่แดนดิน"


พลังน้ำใจมิได้เกิดขึ้นเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น แต่เกิดขึ้นทั่วโลก ความกรุณาปรานีเป็นคุณสมบัติของความเป็นมนุษย์ เป็นจิตสำนึกที่สูง ตรงข้ามกับการหมกมุ่นมัวเมาอยู่กับการเสพสุขของตัวเอง อันดามันวิปโยคนำมาซึ่งความทุกข์อันใหญ่หลวงของมนุษย์จำนวนมาก และแม้เพราะเหตุนั้น ได้ก่อให้เกิดคลื่นแห่งความกรุณาปรานีที่ใหญ่กว่าคลื่นสึนามิ คลื่นนี้ได้ยกระดับจิตใจของมนุษย์ให้สูงขึ้น ซึ่งก่อให้เกิดความรู้สึกที่ดีแผ่ซ่านไปทั่ว

อันที่จริงคลื่นของความทุกข์ที่ซัดกระแทกมนุษย์ทุกรูปทุกนามอยู่ทุกวี่ทุกวันนั้นใหญ่กว่าคลื่นสึนามิทุกลูกรวมกัน ถ้าการสื่อสารของเราจะลดทอนการกระตุ้นให้มนุษย์มัวเมาหมกมุ่นอยู่ในกามสุข หันไปหาวิธีให้มนุษย์ทั้งหมดได้ตระหนักรู้คลื่นของความทุกข์ของมวลมนุษย์ จะเกิดพลังแห่งน้ำใจหลั่งไหลอาบโลกให้ชุ่มเย็น พลังแห่งความกรุณาปรานีเป็น "กำลังเลิศกว่าพลังอื่นทั้งสิ้น" จะเป็นพลังขับเคลื่อนโลกไปสู่ศานติสุข แทนการขับเคลื่อนด้วยโลภจริตเยี่ยงในปัจจุบัน

ประเวศ วะสี


********

โอมาร์ ไคยาม กับภัยพิบัติ


ท่ามกลางกองขยะ สิ่งสลักหักพัง
หลังลิ้มรสช่วงขณะของชีวิต
ดาวตกเดือนดับฤกษ์เดินทาง
แจ้งสว่างที่ไหน - ใครจะรู้? โอ้ - เวลา!


ประสาน ต่างใจ


********


"แม่ธรณี" กับ "แม่คงคา" พลิกตัวพร้อมกันนิดเดียว ก็ยังให้เกิดภัยพิบัติใหญ่หลวงของมนุษย์ สรรพชีวิตและสิ่งแวดล้อมได้มากถึงเพียงนี้
หายนะครั้งนี้ให้บทเรียนล้ำค่าแก่เราว่า มนุษย์มิอาจควบคุม เอาชนะธรรมชาติได้ ดังนั้น เราจึงควรตั้งสติและใช้ปัญญา เรียนรู้เข้าใจโลกธรรมชาติให้มากยิ่งขึ้น
ในการนี้ จำเป็นที่เราจะต้องปรับท่าทีเสียใหม่ให้เคารพและถนอมรักษ์โลกธรรมชาติ ในฐานะที่เขามีชีวิตของเขาเอง มนุษย์และสิ่งมีชีวิตทั้งปวงเกิดที่นี่ พึ่งพาอาศัยเขาอยู่ที่นี่ เราจึงต้องรู้เท่าทัน กตัญญูรู้คุณ และไม่ตั้งอยู่ในความประมาท

เอกวิทย์ ณ ถลาง


********


ในทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ใหม่โดยเฉพาะควอนตัมฟิสิกส์บอกไว้ชัดเจนว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมาในจักรวาลนี้ล้วนแล้วแต่ “มีความหมาย” ทิ้งสิ้น “คลื่นสึนามิ” จึงไม่ใช่แค่ “เหตุบังเอิญ” หรือไม่ได้เป็นเพียงปรากฏการณ์ตามธรรมชาติทั่วๆ ไป
การเกิดคลื่นสึนามิ “สื่อความหมาย” อย่างไรกับพวกเราบ้าง? นอกไปจากความทุกข์และความโศกเศร้าของทั้งผู้สูญเสียเพื่อนคนไทยทั้งชาติรวมไปถึงชาวโลกทั้งหมดนี้
วิทยาศาสตร์ใหม่เชื่อว่าโลกเป็นสิ่งมีชีวิต
การเกิดแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิคงจะสามารถเปรียบเสมือนกับ “อาการปวดท้อง” และ “ท้องเสียอย่างรุนแรง” ของโลกใบนี้
ในขณะที่พายุรุนแรง (ไต้ฝุ่น ทอร์นาโด) เปรียบเสมือนเป็น “อาการไข้” ของโลก
ผมเชื่อว่า “สึนามิ” คือสัญญาณเตือนจาก “สิ่งมีชีวิตหนึ่งคือโลก” ว่า เธอกำลังป่วยกำลังปวดท้องกำลังท้องเสียและต้องการการเยียวยาและดูแลรักษาอย่างรีบด่วนเช่นกัน
เธอกำลังมีความทุกข์และทรมานไม่น้อยไปกว่าพวกเราที่กำลังเศร้าโศกและมีความทุกข์กันอยู่ในตอนนี้

นพ.วิธาน ฐานะวุฑฒ์


********


จากเหตุการณ์มหันตภัยสึนามิ ทำให้เราประจักษ์แล้วว่า ความสุข และความทุกข์นั้น ห่างกันเพียงเสี้ยววินาที จงหันกลับมาสู่ความสุขที่แท้จริง เพื่อตนเองและคนรอบข้าง เพื่อช่วยพวกเขาให้พ้นจากความทุกข์ การช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ช่วยเหลือธรรมชาติโดยไม่หวังผลตอบแทน จะเป็นการเจริญเมตตาภาวนา ที่สร้างความสุขอันยิ่งใหญ่และถาวร
จารุพรรณ กุลดิลก


********


สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากคลื่นยักษ์อันดามัน
... คือ คลื่นน้ำใจอันมหาศาลของมนุษย์ที่หลั่งไหลมาจากทั่วทุกสารทิศ ไม่แบ่งแยกเพศ อายุ ผิวพรรณ วรรณะ จากคนที่บางครั้งเราเผลอไปแบ่งว่าเป็น "คนไทย" และที่ไม่ใช่คนไทย ที่บางครั้งเราเผลอไปแบ่งว่าเป็นคนที่นับถือศาสนาเดียวกันกับเราและที่ไม่ได้นับถือศาสนาเดียวกับเรา หรือที่บางครั้งเราเผลอไปแบ่งว่าเป็นคนที่เราชอบและที่เราไม่ชอบ
... คือ รูปธรรมของสุขภาวะทางจิตวิญญาณ-สุขภาวะทางปัญญา! น้ำใจอันบริสุทธิ์ การให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน การทำงานอาสาสมัครถือเป็นตัวอย่างของการสร้างเสริมสุขภาวะทางจิตวิญญาณ เป็นการเป็นพัฒนาจิตเพื่อสุขภาพ สามารถนำพาประเทศและโลกไปสู่การมีสุขภาวะจากการมีจิตใจสูงของคนทั้งหมด
... คือ ปรากฏการณ์จิตวิวัฒน์! ปรากฏการณ์ที่ชี้ให้เห็นว่ามนุษย์ทุกคนมีศักยภาพที่ยิ่งใหญ่ สามารถก้าวข้ามความอึดอัด คับแคบของอัตตา ตัวตน ไปสู่การมีจิตใหญ่ เชื่อมโยงถึงเพื่อนมนุษย์และธรรมชาติ
... คือ ความหวัง ความหวังในการอยู่รอดของมนุษยชาติ ในการเผชิญวิกฤตอื่นที่รอเราอยู่ในอนาคตกันใกล้นี้

สรยุทธ รัตนพจนารถ


********

ทะเลบ้า สึนามิ มติแห่งธรรมชาติ

ทะเลบ้าคนก็บ้าฟ้าบ้าด้วย
ทะเลสวยคนก็สวยช่วยฟ้าใส
ถ้าคนดีทะเลดีฟ้ามีใจ
รักกันไว้ คน น้ำ ฟ้า สัตว์ ป่า ดิน

ฉกฉวยมากสูญเสียมากฝากให้คิด
เมตตาจิตคิดจะให้กลับได้สิน
สินสมบัติของคนดีศรีแผ่นดิน
สินไม่สิ้นรินน้ำใจให้แก่กัน

สึนามิสื่อภัยดำสื่อธรรมชาติ
สึนามิอาละวาดมิคาดฝัน
สึนามิสื่อเตือนภัยให้เท่าทัน
ทะเล ฟ้า ป่า ดิน ฉัน นั้นหนึ่งเดียว

ทำลายน้ำทำลายป่าฆ่าผู้อื่น
หรือหยิบยื่นความทุกข์ใส่ให้คนเสียว
ความทุกข์นั้นผันหาเราเท่ากันเชียว
จึงอย่าเที่ยวทำร้ายเขาเพราะเขลาเลย

Back to Top