ศิลปะของการสูญเสีย



โดย ชลนภา อนุกูล
หนังสือพิมพ์มติชน ฉบับประจำวันที่ 28 ตุลาคม 2560

พวกเราแต่ละคนคงเคยทำของหายกันมาไม่มากก็น้อย ไม่ว่าจะเป็นดินสอ ปากกา หมวก ร่ม แว่นตา กระเป๋าสตางค์ บัตรประจำตัวประชาชน บัตรเอทีเอ็ม กุญแจบ้าน ฯลฯ ของเหล่านี้บางทีก็หายซ้ำแล้วซ้ำเล่า ราวกับว่าเป็นของที่ถูกสร้างหรือทำขึ้นมาสำหรับมีไว้หายยังไงยังนั้น ของเหล่านี้พอหายบ่อยขึ้น หลายคนก็เริ่มชิน ความหงุดหงิดโมโหหรือความเสียดายก็น้อยลงกว่าครั้งแรก-แรก แล้วก็ใช้ชีวิตกันต่อไป

ของบางอย่างไม่หาย แต่เราก็คงเคยทำจานชามหล่นแตก แก้วเจียระไนหรือเซรามิกสะสมชิ้นโปรดหลุดมือ อุบัติเหตุบนท้องถนนทำให้หน้ารถยุบไปทั้งคัน บ้านของใครบางคนก็ไหม้ไปทั้งหลังต่อหน้าต่อตา ไฟเผาข้าวของหมดสิ้น รวมทั้งลูกหมาอัลเซเชียนครอกใหม่ที่เพิ่งลืมตาออกมาดูโลก เมื่อข้าวของในชีวิตเสียหายบ่อยครั้งขึ้น รุนแรงขึ้น ก็มีภูมิคุ้มกันในชีวิตมากขึ้น แล้วก็ใช้ชีวิตกันต่อไป

เมื่ออายุมากขึ้น ก็คงเริ่มตระหนักกันว่า นอกจากข้าวของแล้ว เวลาก็ยังหายได้ด้วย ผู้ใหญ่แต่ละคนล้วนสูญเสียวัยเยาว์ ผู้สูงอายุล้วนสูญเสียวัยหนุ่มสาว และพวกเราทุกคนล้วนเคยเสียเวลาให้กับหลายเรื่องและหรือหลายคน กระนั้น แม้ว่าวันเวลาเหล่านั้นจะน่าเสียดาย แต่ก็ไม่สามารถซื้อของใหม่มาทดแทนเหมือนข้าวของ การสูญเสียเวลาในทุกเวลานาทีในปัจจุบันขณะก็ทำให้เกิดความเคยชิน จนหลายครั้งไม่รู้สึกถึงความเสียดายด้วยซ้ำ แต่พวกเราก็ใช้ชีวิตกันต่อไป

ความทรงจำก็เป็นสิ่งที่ทำหล่นหายได้ในระหว่างทางเดินของชีวิตเช่นกัน รูปถ่ายเก่าแก่แม้ยังอยู่ในอัลบัม แต่ใบหน้าของคนบางคนเลือนหายไปจากความจำ ชื่อหลายชื่อก็ติดอยู่ที่ริมฝีปากเสียอย่างนั้น แหวนที่แม่ให้มาเลื่อนหลุดจากนิ้วไปตอนไหนไม่รู้ได้ สร้อยพระที่ขอพ่อมาก็ขาดหล่นไปนานแล้ว เพื่อนรักก็ห่างหายจากกัน สูญเสียไปบ่อยครั้งเข้าก็เริ่มเข้าใจ แล้วก็ใช้ชีวิตกันต่อไป

สำหรับบางคน เมื่อทำธุรกิจล้มเหลว บ้านถูกธนาคารยึดไปขายทอดตลาดถูก-ถูก ทาวน์เฮาส์ที่ซื้อกับเพื่อนก็กลายเป็นชื่อคนอื่น มิตรสหายที่เคยล้อมหน้าล้อมหลังหายหน้าหายตาไป ซื้ออะไรก็ถูกหลอกถูกโก่งราคาเพราะเป็นคนแก่ สูญเสียความไว้วางใจต่อทุกคนในโลกรวมทั้งคนที่มาจดมิเตอร์น้ำและไฟฟ้า แต่ก็ยังต้องใช้ชีวิตต่อไป

บางคนไม่เพียงแต่สูญเสียบ้าน งานที่ทำ โรงเรียนที่ลูกไปเรียน แต่ต้องละทิ้งแผ่นดินเกิด ทั้งภูเขา ทั้งแม่น้ำ ทั้งฤดูกาล ข้ามน้ำข้ามทะเลไปอยู่ประเทศอื่น ทวีปอื่น ในฐานะของผู้อพยพ การสูญเสียอดีตรวมทั้งอนาคตอันมั่นคงอาจจะไม่ได้เกิดขึ้นเพียงแค่ครั้งเดียว แต่เมื่อเกิดขึ้น แม้เสียใจก็จำต้องยอมรับ แล้วก็ใช้ชีวิตกันต่อไป

พวกเราบางคนต้องพลัดพรากจากครอบครัว หลายคนสูญเสียผู้เป็นที่รัก ไม่ว่าจะเป็นการจากเป็นหรือจากตาย หัวใจก็แทบแหลกสลาย น้ำตาก็ไหลแทบไม่หยุด โลกทั้งโลกเหมือนจะพังทลาย แต่พอสูญเสียหลายครั้งหลายหนเข้า ความรู้สึกเสียใจก็สั้นลง ตัดใจเร็วขึ้น ปล่อยวางง่ายขึ้น แล้วก็ใช้ชีวิตกันต่อไป

สำหรับคนไทย วิกฤติเศรษฐกิจในปี พ.ศ. ๒๕๔๐ ทำให้ความฝันของประเทศในการเป็นเสือตัวที่ ๕ แห่งเอเชียสูญสลาย คนจำนวนมากต้องแบกรับหนี้มหาศาลและส่งต่อภาระและความรับผิดชอบให้รุ่นลูก หลายคนล้มละลาย บางคนอดทนค่อยสั่งสมเงินทุนและฟื้นตัว ความเจ็บปวดยี่สิบปีที่แล้วแม้ยังหลอกหลอนอยู่ แต่ก็ทำให้วิกฤติหลายอย่างในชีวิตเป็นวิกฤติเล็ก-เล็กไป

ในปี พ.ศ. ๒๕๔๗ เราเคยประสบความสูญเสียอย่างหนักจากสึนามิ ภัยพิบัติที่คนไทยไม่เคยรู้จักชื่อมาก่อนนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่าแปดพันคน ได้รับบาดเจ็บราวแปดพันคน และสูญเสียที่อยู่อาศัยอีกกว่าเจ็ดพันคน แต่ก็ทำให้เกิดจิตอาสาจำนวนมากที่ลงไปช่วยทำงานอันลำบากและยากยิ่งในการจัดเก็บศพ และค้นหาผู้เสียชีวิตให้กับญาติทั่วโลก และนำไปสู่การพัฒนาเครือข่ายจิตอาสาจำนวนมากหลังจากนั้น ที่ทำงานอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอแม้จะไม่ได้อยู่ในภาวะวิกฤติ

อีกเจ็ดปีถัดมา ภัยพิบัติน้ำท่วมใหญ่ปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ซึ่งเกิดจากความล้มเหลวในการบริหารจัดการน้ำของภาครัฐ อย่างไรก็ดี กลับกลายเป็นว่ามีการจัดการตนเองเกิดขึ้นจำนวนมากในภาคเอกชนและประชาสังคม มีการระดมทุนเข้าไปช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยจำนวนมาก และมีการบริหารจัดการจิตอาสาที่เป็นระบบแบบแผนชัดเจนขึ้น และหลังน้ำลดก็เกิดกระแสตื่นตัวในการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นองค์รวม สภาวิศวกรซึ่งเป็นองค์กรวิชาชีพถูกกระตุ้นให้แสดงบทบาทความรับผิดชอบทางสังคมมากขึ้น

ล่าสุดในปี พ.ศ. ๒๕๕๙ ประชาชนชาวไทยประสบกับสึนามิทางจิตวิญญาณครั้งใหญ่ เมื่อต้องสูญเสียพระมหากษัตริย์ของประชาชน ที่ครองราชย์มานานถึงเจ็ดสิบปี ผู้คนจำนวนมากร่ำไห้ร่วมกันในวันที่สวรรคต หนึ่งปีผ่านไป น้ำตาแห่งความอาลัยก็ยังหลั่งไหลไม่หมดสิ้น ประชาชนจำนวนมากยังพูดถึงคุณงามความดีของผู้ซึ่งจากไป ผู้คนหลายแสนยอมตากแดดตากฝนทนรอข้ามวันข้ามคืนเพื่อเข้าร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ นี้นับว่าเป็นการสูญเสียรากใหญ่ทางสังคมและวัฒนธรรมครั้งสำคัญ แต่ – ท่ามกลางเสียงโหยไห้ อกใจแห้งโหย และหมอกเมฆอนาคตหม่นเทา คนไทยทั้งปวงย่อมล่วงพ้นความสูญเสียนี้ไปได้ เหมือนที่เคยผ่านมาแล้วหลายครั้งหลายคราว

นอกจากจะสูญเสียธรรมิกราชา ยังมีความสูญเสียอีกมากมายที่พวกเรากำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน การใช้อำนาจเกินเลยทำให้คนหลายคนกำลังสูญเสียอิสรภาพ ความไม่เข้าใจในความแตกต่างของผู้คนทำให้สังคมไทยสูญเสียเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น เมตตาที่แห้งแล้งย่อมไม่มีที่ทางให้กับอารมณ์ขันและการให้อภัยต่อความผิดพลาด ความเหลื่อมล้ำทำให้คนจำนวนมากสูญเสียเสรีภาพในทางเศรษฐกิจ ความไม่เป็นธรรมทั้งในเชิงเนื้อหาและกระบวนการทำให้หลายคนสูญเสียความหวัง ความฝัน และความเชื่อมั่นไว้วางใจในเพื่อนมนุษย์

เมื่อพินิจดูสายธารประวัติศาสตร์ เผด็จการที่ปราศจากธรรมก็มีอันต้องปลาสนาการไปจากสังคมไทย โครงสร้างอำนาจแนวดิ่งก็สูญเสียตัวเองไปในโลกที่แบนราบและให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงกันบนพื้นฐานของความเสมอภาคเท่าเทียม ความรุนแรงประดิษฐานตัวเองอยู่ได้ก็แต่ในโลกอันล้าหลัง ผู้ซึ่งเคยมีชีวิตยิ่งใหญ่ล้วนตายจาก พวกเราทุกคนที่คิดว่าตัวเองสำคัญก็จะถูกหลงลืม

ในเมื่อพวกเราได้รับการฝึกฝนศิลปะแห่งการสูญเสียทุกรูปแบบอยู่แทบทุกเวลานาทีในชีวิตนี้อยู่แล้ว สาอะไรกับความทุกข์ใหญ่ยิ่งของเรา ก็ย่อมสูญเสียไปได้ด้วยกฎแห่งความไม่จีรังยั่งยืนนั้นเอง

Back to Top