มนุษย์จำเป็นต้องมีจิตขนาดใหญ่
เพื่อที่จะบรรจุความเมตตา ความกรุณา
อันไม่มีที่ประมาณไว้ได้
โดย ผศ.ดร.จุมพล พูลภัทรชีวิน
หนังสือพิมพ์มติชน ฉบับประจำวันที่ 21 พฤศจิกายน 2558
ประสบการณ์การนำแนวคิดและแนวปฏิบัติ “กัลยาณมิตรจิตตปัญญาประเมิน” ไปใช้ใน “โครงการประเมินโครงการพัฒนาการเกษตรยั่งยืน และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนในเขตโครงการจัดรูปที่ดิน” ในปีที่สองของผม มีความสนุก ท้าทาย และยากมากขึ้น เพราะความแปลกแยกลดลง ความสนิทสนมระหว่างทีมประเมินกับทีมพัฒนาเพิ่มขึ้น ทีมประเมินจึงต้องหาความสมดุลระหว่างการเป็นผู้ประเมินกับความเป็นเพื่อนร่วมเดินทาง ผมต้องคอยเตือนตนเอง บอกทีมประเมิน ทีมพัฒนา และทีมกรมชลฯ เป็นระยะๆ ว่า ถึงแม้เรามีเป้าหมายร่วมกัน แต่บทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบเฉพาะของเราแตกต่างกันออกไป เปรียบเสมือน “กล้วยเครือเดียวกัน แต่คนละหวี”
ที่ยากและท้าทายมากกว่านั้นคือ เรายังไม่พบว่าทีมพัฒนาได้นำแนวคิดและแนวปฏิบัติของจิตตปัญญาไปใช้กับวิทยากรกระบวนการชุมชน (FA ชุมชน) และประชาชนในพื้นที่ ทั้งในปีแรกและในช่วงแรกของปีที่สอง ทั้งที่ในทางปฏิบัติผมได้ทำกระบวนการจิตตปัญญากับทีมพัฒนามาโดยตลอดตั้งแต่เริ่มโครงการ มีการพูดคุยประเด็นนี้ในการประชุมร่วมสามฝ่าย นำไปสู่การตกลงร่วมกันว่าให้มีการจัดการอบรมเชิงปฏิบัติการเรื่องจิตตปัญญาศึกษาอย่างเป็นทางการให้กับทีมทำงานทั้งสามฝ่ายโดยมีผมเป็นวิทยากรกระบวนการ และหวังว่าจะมีการนำแนวคิดและแนวปฏิบัติของจิตตปัญญาไปใช้กับ FA ชุมชน และ FA ชุมชนนำไปใช้กับประชาชนในพื้นที่
เป็นที่น่ายินดีว่า ในช่วงครึ่งปีหลังของปีที่สอง ทีมพัฒนาได้เริ่มนำแนวคิดและแนวปฏิบัติทางจิตตปัญญาไปใช้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเน้นความสำคัญของการฟังในกระบวนการปรึกษาหารือและการทำงานร่วมกัน และการสะท้อนการเรียนรู้ หรือ AAR (After Action Review) กับ FA ชุมชน แต่จากการสังเกตการทำงานของ FA ในพื้นที่ และจากข้อมูลทางเอกสารรายงานของทีมพัฒนา ทีมประเมินยังไม่พบหลักฐานว่า FA ชุมชนได้นำกระบวนการจิตตปัญญาไปใช้กับประชาชนในพื้นที่ นอกจากนั้นเรายังพบว่า การวางแผน และการออกแบบการประชุมเสริมความรู้และการประชุมถอดบทเรียนในปีที่สอง FA ชุมชนและประชาชนในพื้นที่ไม่ได้เข้ามามีส่วนร่วม จึงเป็นการทำงานแบบมีส่วนร่วมในแนวดิ่ง ไม่ใช่แนวตั้งจากล่างขึ้นบน และไม่ใช่แนวระนาบ จึงมิใช่การทำงานแบบร่วมคิด ร่วมวางแผน ร่วมทำ ร่วมประเมิน ร่วมรับผล และร่วมปรับปรุงพัฒนาอย่างครบวงจรและอย่างเป็นองค์รวม ดังนั้นในปีสุดท้ายของโครงการ จะต้องทุ่มเทในเรื่องนี้อย่างจริงจังเพิ่มมากขึ้น