โดย
ไพรินทร์ โชติสกุลรัตน์
หนังสือพิมพ์มติชน ฉบับประจำวันที่ 10 ตุลาคม 2558
ประวัติศาสตร์ของมนุษย์ที่ผ่านมาเต็มไปด้วยสงคราม มากเสียจนมนุษย์เองอาจจะเชื่อว่าเราไม่มีทางจะหลีกเลี่ยงการรบราฆ่าฟันได้ ไม่เพียงแต่สงคราม มนุษย์เรายังสร้างความรุนแรงรูปแบบอื่นอีกมากมาย ที่ประทับรอยแห่งความโหดร้าย ความทุกข์ ความโศกเศร้า ไว้บนหน้าประวัติศาสตร์
สงครามและความรุนแรงนั้นเป็นธรรมชาติของมนุษย์หรือ เราสามารถตอบคำถามนี้ได้ด้วยการย้อนกลับไปดูหลักฐานในอดีต ว่าที่ผ่านมานั้น มนุษย์เคยอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข โดยปราศจากร่องรอยของความรุนแรงหรือไม่
มาเรีย กิมบูตัส (Marija Gimbutas ๑๙๒๑-๑๙๙๔) นักโบราณคดีหญิงชาวลิธัวเนีย เป็นผู้หนึ่งที่พบหลักฐานว่า เคยมีอารยธรรมที่ปราศจากสงครามและความรุนแรง เธอทุ่มเทชีวิตเพื่อศึกษาแหล่งโบราณคดีในยุโรป โดยเฉพาะในยุโรปตะวันออก เริ่มต้นจากการศึกษายุคสำริด (Bronze Age) ซึ่งเป็นยุคของหมู่ชนที่เรียกว่าอินโด-ยูโรเปียน (Indo-European) และเป็นยุคแห่งอาวุธและสงคราม งานวิจัยของเธอได้รับการยอมรับในระดับโลก จนเธอได้รับเลือกให้มาเป็นนักวิชาการด้านโบราณคดีที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดในสหรัฐอเมริกา และย้ายไปที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ในลอสแองเจลีส
จุดหักเหของเธอ เกิดขึ้นในปี ๑๙๖๗ เมื่อเธอได้เป็นผู้ดูแลการขุดค้นทางโบราณคดีในบอสเนีย ตลอดเวลาหลายปีที่นั่น เธอได้สัมผัสกับยุคหินใหม่ของยุโรปที่แตกต่างจากวัฒนธรรมแห่งสงครามและความรุนแรงของยุคสัมฤทธิ์ จนเธอต้องพยายามทำความเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นในยุโรปก่อนที่พวกอินโด-ยูโรเปียนจะเข้ามา เธออุทิศเวลาที่เหลือของชีวิตเพื่อทำการศึกษาอารยธรรมอันแตกต่างนี้ และให้ชื่อมันว่า “ยุโรปเก่า” (Old Europe)