ทางรอดจากความรุนแรง


โดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี
หนังสือพิมพ์มติชน ฉบับประจำวันที่ 15 ธันวาคม 2555

จำนวนคนไทยที่มีความตื่นตัวทางการเมืองขณะนี้ ไม่ว่าจะเรียกว่าสีแดง สีเหลือง หลากสี ไม่มีสี คงจะมีหลายล้านคน การมีคนตื่นตัวทางการเมืองมากขนาดนี้ จึงเป็นจุดเปลี่ยนประเทศไทย จุดเปลี่ยนนี้อาจเปลี่ยนไปเกิดความรุนแรงถึงขั้นมิคสัญญีกลียุคก็ได้ หรือเปลี่ยนไปสร้างศานติสุขก็ได้

ถ้าการเมืองยังเป็นการเมืองแห่งความเกลียดชัง ความรุนแรงคงหลีกเลี่ยงไม่พ้น เครือข่ายคนเสื้อแดงอันมีจำนวนมากนั้น มีวัตถุประสงค์ในการต่อต้านรัฐประหาร หากมีรัฐประหารไม่ว่าด้วยเหตุใดๆ คงนองเลือดขนานใหญ่แน่ เครือข่ายคนเสื้อเหลืองนั้นเพื่อต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นและการจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ ข้อกล่าวหาว่าคิดล้มล้างสถาบันเป็นข้อหาที่รุนแรงยิ่ง และความขัดแย้งเรื่องสถาบันในที่สุดจะนำไปสู่การนองเลือดครั้งใหญ่ในแผ่นดินไทย

สงครามกลางเมืองในสหรัฐอเมริกาที่เริ่มเมื่อ ค.ศ.๑๘๖๒ มีคนตายไปกว่า ๖๐๐,๐๐๐ คน ในอินโดนีเซียการไล่ฆ่าคอมมิวนิสต์เมื่อ ค.ศ. ๑๙๖๕ มีคนตายไป ๕๐๐,๐๐๐ คน ในศรีลังกาความขัดแย้งรุนแรงระหว่างสิงหลกับทมิฬยืดเยื้อถึง ๒๕ ปี และมีคนตายไปหลายหมื่นคน ถามว่าถ้ามีการนองเลือดในประเทศไทย มีการฆ่ากันตายไป ๕๐๐,๐๐๐ คน หรือถ้ายังขัดแย้งรุนแรงเรื้อรังต่อไปอีก ๒๕ ปี ประเทศของเราจะเป็นอย่างไร

ต่อไปนี้เป็นข้อเสนอแนะ ๘ ประการ เพื่อความรอดพ้นจากความรุนแรง

๑. ทุกฝ่ายต้องมีสติ หลีกเลี่ยงการกระทำที่จะนำไปสู่ความรุนแรง

๒. พรรคการเมืองต้องทำให้ระบบรัฐสภาเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง โดยมีความสุจริต ใช้ความรู้ เหตุผล หลักฐาน ข้อเท็จจริง และสัมมาวาจา นักการเมืองเป็นคนที่เจริญ อย่าเป็นคนไม่เจริญ บ้านเมืองจึงจะรอดพ้นความรุนแรง

๓. การชุมนุมประท้วงรัฐบาลและการตอบโต้จากฝ่ายรัฐบาล ควรเป็นไปอย่างสร้างสรรค์และสันติ โดยฝ่ายชุมนุมประท้วงควรมีข้อเสนอเชิงนโยบาย รัฐบาลโดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีควรมารับข้อเสนอ ข้อเสนอใดดีและปฏิบัติได้ก็สั่งให้มีการปฏิบัติ ข้อเสนอใดดีแต่ยังปฏิบัติไม่ได้ก็ให้ตั้งคณะทำงานร่วมกันไปศึกษารายละเอียดจนถึงขั้นปฏิบัติได้ วิธีนี้จะทำให้ประชาธิปไตยทางตรงและประชาธิปไตยทางอ้อมเข้ามาบรรจบกันอย่างสร้างสรรค์ และลดแรงกดดันที่อาจระเบิดเป็นความรุนแรงได้

๔. ทุกฝ่ายควรจะระลึกรู้ว่า เราต้องมุ่งร่วมสร้างอนาคตประเทศไทยมากกว่าจะติดอยู่กับการทะเลาะกันเรื่องอดีต อดีตมีรากยาวไกลและมีบุคคลเกี่ยวข้องมาก การติดอยู่ในอดีตมากเกินไปทำให้เราเคลื่อนไปสู่อนาคตไม่ได้ และมาจ่ออยู่ปากเหวแห่งมิคสัญญีกลียุคแล้ว

ความจริงประเทศไทยมีทุนต่างๆ มาก ทั้งทุนทางทรัพยากรธรรมชาติ ทุนทางสังคม ทุนทางวัฒนธรรม ทุนทางศาสนธรรม ทุนทางปัญญา ทุนภาครัฐ ทุนภาคธุรกิจเอกชน ทุนเหล่านี้มากเกินพอที่จะสร้างประเทศไทยให้เป็นประเทศที่น่าอยู่ที่สุดสำหรับทุกคน การรวมตัวกันทำสิ่งที่ใหม่ที่ดี คนไทยจะไม่ทะเลาะกัน เพราะอนาคตยังไม่มีจำเลย แต่การปัญหาเก่าจะทะเลาะกันมากขึ้น เพราะอดีตมีจำเลย

ประเทศไทยควรเข้าเกียร์ใหม่ เป็นเกียร์หน้า คือมุ่งสร้างอนาคตประเทศไทย แล้วจะรักกันมากขึ้น

๕. ประเทศที่น่าอยู่คือประเทศที่มีความเป็นธรรมและไม่มีความเหลื่อมล้ำมากเกิน อนาคตประเทศไทยที่สำคัญที่สุดคือการสร้างความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ ทุกฝ่ายควรร่วมสร้างความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ โดยมาตรการที่สำคัญ ๒ ประการคือ





๕.๑ กระจายอำนาจไปให้ประชาชน ชุมชน ท้องถิ่น จังหวัด จัดการตนเองให้ได้มากที่สุด

๕.๒ พัฒนานโยบายเพื่อความเป็นธรรม เช่น การจัดสรรทรัพยากรอย่างเป็นธรรม


๖. การปฏิบัติตาม ๕.๑ และ ๕.๒ ทั้งเสื้อแดง เสื้อเหลือง และนักวิชาการสามารถทำงานเสริมกันได้ ดังนี้





๖.๑ เครือข่ายคนเสื้อแดงจะเตรียมพร้อมต่อต้านรัฐประหารก็เป็นการสมควร แต่ก็สามารถทำให้ยิ่งกว่านั้น ที่จะสร้างความเข้มแข็งให้ตนเอง และทำให้รัฐประหารทำไม่ได้เลย นั่นคือรวมตัวกันทำเรื่องชุมชนจัดการตนเอง ท้องถิ่นจัดการตนเอง จังหวัดจัดการตนเอง

การจัดการตนเองหมายถึงจัดการพัฒนาอย่างบูรณาการและจัดการพัฒนานโยบาย

การพัฒนาอย่างบูรณาการนั้นพัฒนา ๘ เรื่องอย่างเชื่อมโยงกัน คือ เศรษฐกิจ-จิตใจ-สังคม-วัฒนธรรม-สิ่งแวดล้อม-สุขภาพ-การศึกษา-ประชาธิปไตย เมื่อชุมชนท้องถิ่นจัดการตนเองได้จะเข้มแข็ง หายจน อยู่เป็นสุข รัฐประหารทำไม่ได้เพราะอำนาจกระจายไปอยู่กับชุมชนท้องถิ่นโดยทั่วถึงหมดแล้ว

๖.๒ คนเสื้อเหลือง และนักวิชาการไม่ว่าสีใดๆ หรือไม่มีสี ควรสนับสนุนชุมชนท้องถิ่น และจังหวัดจัดการตนเอง และพัฒนานโยบายเพื่อความเป็นธรรม เช่นการจัดสรรทรัพยากรอย่างเป็นธรรม โดยที่นโยบายเพื่อความเป็นธรรมทำได้ยาก แต่ก็ต้องทำ โดยอาศัยพลังทางปัญญา และพลังทางสังคม พลังทางสังคมจากพื้นที่ตาม ๖.๑ จะเป็นพลังที่ขับเคลื่อนนโยบายเพื่อความเป็นธรรม


๗. เมื่อบ้านเมืองมีสติ มีทิศทาง มีกรอบที่จะร่วมกันสร้างอนาคตประเทศไทยตามที่กล่าวในข้อ ๑-๖ ข้างต้น ระบบราชการทั้งพลเรือนและกองทัพจะตั้งตนไว้ชอบได้ง่ายขึ้น ระบบราชการต้องตั้งอยู่ในความสุจริต มีอิสระ มีความรู้ มีสมรรถนะสูง ที่จะไม่ทำให้เกิดสภาวะรัฐล้มเหลว สนับสนุนการสร้างความเป็นธรรมและลดความเหลื่อมล้ำ

๘. ระบบข้อมูลข่าวสารและการสื่อสารที่ดี จะทำให้ตั้งแต่ข้อ ๑ ถึงข้อ ๗ เป็นไปได้จริง และประเทศไทยมีความสวัสดี

การที่ประเทศไทยจะหลีกเลี่ยงมิคสัญญีกลียุค และมีอนาคตที่ดี ไม่ใช่สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ มรรควิธี ๘ ประการดังกล่าวจะทำให้สิ่งที่เป็นไปไม่ได้เป็นไปได้ ถ้าทุกฝ่ายมุ่งร่วมสร้างอนาคตประเทศไทย ยังสามารถทำเรื่องดีๆ อื่นๆ ได้อีกมาก ซึ่งรวมทั้งบทบาทในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและสันติภาพ ประเทศไทยควรมีบทบาทสำคัญในเรื่องสันติภาพโลก

Back to Top