มนุษย์จำเป็นต้องมีจิตขนาดใหญ่
เพื่อที่จะบรรจุความเมตตา ความกรุณา
อันไม่มีที่ประมาณไว้ได้
ช่วงนี้ดูเหมือนเหล่ายอดมนุษย์จะตกงาน เพราะเกือบทุกฝ่ายต่างก็ออกมาปราบอธรรมกันถ้วนหน้า วิกฤติคราวนี้ทำให้ภาคประชาชนต้องออกมาเอ็กซ์เซอร์ไซส์เยอะหน่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งพลังทางปัญญา
ช่วงก่อนได้มีความพยายามจากหลายฝ่ายขับเคลื่อนเรื่องธรรมาธิปไตย ให้ใช้คุณธรรมและจริยธรรมเป็นธงนำในการปฏิรูปเพื่อเปลี่ยนแปลง แต่เรื่องคุณธรรมและจริยธรรมไม่ได้เป็นเรื่องที่แยกตัวโดดเดี่ยวออกจากเรื่องอื่นๆ วิกฤติหรือปัญหาในทุกวันนี้ก็เกิดจากกระบวนทัศน์แบบแยกส่วนนี้เอง
การขับเคลื่อนเรื่องคุณธรรมและจริยธรรมจึงต้องแฝงฝังอยู่ในทุกเรื่อง เราจำต้องใช้กระบวนทัศน์แบบใหม่ แบบองค์รวม - ที่ไม่ได้แปลว่าเอามากองรวมกัน – ในการแก้ไขปัญหา
ทั้งหมดทั้งนั้นต่างก็เป็นเรื่องเดียวกับเรื่องของคุณค่า เป็นการดึงศักยภาพในตัวของมนุษย์ออกมาเรียนรู้และพัฒนาตนเอง เพื่อให้ได้รับสิ่งประเสริฐสูงสุดร่วมกัน เป็นเรื่องเดียวกับแผนงานพัฒนาจิตเพื่อสุขภาพ และเป็นเรื่องเดียวกับจิตวิวัฒน์
ในที่ประชุมจิตวิวัฒน์เคยพูดคุยกันถึงเรื่องการสร้างความเข้าใจมิติเชิงคุณค่า หรือจิตวิญญาน ผ่าน ๓ ช่องทาง คือ ความสุข จิตสำนึก และคุณธรรมจริยธรรม
ความสุขที่แท้ย่อมโน้มนำไปสู่ความกรุณา
จิตสำนึกที่ตั้งอยู่บนสัมมาทิฏฐิย่อมนำไปสู่ปัญญา
คุณธรรมจริยธรรมย่อมนำไปสู่ความเป็นปรกติสุข
ความกรุณาที่แท้ย่อมเป็นปัญญา ปัญญาที่แท้ย่อมประกอบด้วยความกรุณา ความปรกติสุขที่แท้ย่อมประกอบด้วยความกรุณาและปัญญา
เรื่องนามธรรมเหล่านี้ต้องอยู่ในรูปธรรมของทุกอย่าง
ขอน้อมเชิญมาร่วมเรียนรู้เพื่อการเปลี่ยนแปลงร่วมกัน
แสดงความคิดเห็น