ที่หายไปนั้นคือสายสัมพันธ์เชื่อมโยง



โดย ชลนภา อนุกูล
หนังสือพิมพ์มติชน ฉบับประจำวันที่ 30 พฤษภาคม 2552

หากอยากรู้ว่าเราสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมนอกตัวอย่างไร ลองกลั้นหายใจดู

อากาศที่มองไม่เห็นก็กลายเป็นสิ่งที่มีความสำคัญและจำเป็นต่อการมีชีวิตของเราขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ

อากาศมาจากไหน? – จากต้นไม้ไงล่ะ หนังสือแบบเรียนชั้นประถมตะโกนตอบมาจากหลังห้อง

แล้วต้นไม้มาจากไหนล่ะ? – ก็มาจากดิน น้ำ แสงสว่าง เมล็ดพันธุ์ที่หล่นลงมาพร้อมมูลนกที่บินข้ามฟ้ามาจากเขาลูกโน้นกระมัง แล้วอย่าถามนะว่าดินมาจากไหน? เพราะนอกจากจะตอบว่ามาจากซากพืชซากสัตว์ หรือหินฟอสซิลที่กร่อนทำลายด้วยกระแสแห่งกาล การถามถึงที่มาของสิ่งโน้นสิ่งนี้ก็จะวนกลับมาที่สิ่งมีชีวิตอย่างเราจนได้นั่นแหละ

แล้วพวกเรามาจากไหน? – ก็สืบสายมาจากพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย ย้อนไปจนถึงอดัมกับอีฟคู่แรกของโลกโน่นไง

แล้วมนุษย์มาจากไหน? – เฮ้อ... (เริ่มขี้เกียจตอบเจ้าหนูจำไม) ไม่รู้จักดาร์วินหรือยังไง ก็เขาว่าวิวัฒนาการมาจากลิงไม่ใช่ล่ะหรือ

แล้วลิงมาจากไหนล่ะ? – ก็มาจากเซลล์สิ่งมีชีวิตแรกของโลก ที่มาจากการเขมือบหม่ำกันของแบคทีเรีย และยำไปยำมาจนกระทั่งออกมาเป็นเซลล์ที่มีดีเอ็นเอแตกต่างกันนั่นแหละ แล้วถ้าจะถามว่าแบคทีเรียมายังไง ก็มาจากหม้อซุปของโลกที่มีสารเคมีในดินน้ำลมไฟเป็นปัจจัยเอื้อให้เกิด

แล้วโลกมาจากไหน? – โอ... จะถามไปถึงไหนเนี่ย จริง-จริงจะคุยกันไปถึงจักรวาล และจุดเริ่มแห่งกาลเวลาก็ยังได้ แต่...แล้วไงต่อ?

เอาเป็นว่า เราเห็นความสัมพันธ์เชื่อมโยงแบบคร่าว-คร่าวระหว่างสิ่งมีชีวิตและสิ่งไม่มีชีวิต บนเส้นกาลเวลาทั้งในอดีตและปัจจุบันบ้างแล้ว ลองกลับมาที่จอคอมพิวเตอร์ที่กำลังพิมพ์บทความตรงหน้า

คอมพิวเตอร์มาจากไหน? – ก็ซื้อมาจากคนขายคอมพิวเตอร์ที่ห้างไอทีแถวบ้าน ส่วนห้างก็ซื้อมาจากยี่ปั๊วหรือตัวแทนจำหน่ายอีกที โดยต้นทางการผลิตเริ่มที่โรงงานประกอบชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่ผลิตแยกกันจากต่างทิศต่างที่ โดยอาศัยวิศวกร คนงานนับไม่ถ้วน มีสิทธิบัตรทางด้านฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์นับพันนับหมื่นอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องเดียว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงผลงานทางความคิดของผู้คนที่เป็นเจ้าของสิทธิบัตรเหล่านั้น และผู้คนเหล่านั้นเองก็เป็นผลผลิตของการศึกษาในหลักสูตรต่างๆ ของมหาวิทยาลัย วิทยาลัย โรงเรียน ซึ่งเป็นที่สั่งสมวิชาความรู้มาจากครูบาอาจารย์หลายรุ่นหลายปี และ...

พอก่อน พูดมากอย่างนี้จิบกาแฟสักหน่อยไหม? - กาแฟแก้วนี้มาจากผงกาแฟที่บดจากเมล็ดกาแฟคั่วของชาวไร่กาแฟบนดอยทางเหนือของประเทศไทย ต้องอาศัยดิน น้ำ แสง ความชื้นที่เหมาะสมจึงจะได้ผลผลิตเป็นกาแฟที่ดี ความรู้และประสบการณ์เรื่องการคั่วเมล็ดกาแฟที่อุณหภูมิและเวลาที่เหมาะจะทำให้ได้เมล็ดกาแฟคั่วที่ดี เทคนิคการบดเมล็ดกาแฟทำให้ได้ความเข้มข้นและกลิ่นที่แตกต่าง ผู้ชงกาแฟที่ชำนาญย่อมเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างอุณหภูมิของน้ำร้อนและความดันอากาศที่ใช้ในการต้มกาแฟ นี่ยังไม่พูดถึงผู้จัดจำหน่ายเมล็ดกาแฟ ร้านกาแฟ ทำเลที่ตั้ง โรงเรียนสอนทำกาแฟที่ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด เช่นเดียวกันกับธุรกิจจัดจำหน่ายอุปกรณ์ชงกาแฟ ทั้งหมดนี้มาพร้อมกับไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ที่ทำให้การดื่มกาแฟเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างอัตลักษณ์ ฯลฯ

เอาล่ะ เราพอจะมองออกแล้วว่า มนุษย์คนหนึ่งที่ใช้คอมพิวเตอร์และจิบกาแฟแก้วหนึ่งไปด้วยระหว่างทำงาน มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกับผู้คน สิ่งแวดล้อม สังคม โลก เป็นหนี้บุญคุณกับบรรพบุรุษ องค์ความรู้ที่ส่งต่อมาจากรุ่นสู่รุ่น การประกอบสัมมาชีพของผู้คนจำนวนมากมายต่อกันเป็นลูกโซ่และเครือข่าย มีใบหน้าของผู้คนที่เรารู้จักและไม่รู้จักมากมายที่ทำให้เรามีคอมพิวเตอร์และกาแฟ

หากเรารู้จักใช้การมองอย่างนี้กับสรรพสิ่งและผู้คนรอบตัว เราจะเข้าใจได้ไม่ยากว่าการกระทำของเรา ความเป็นอยู่ของเรา ชีวิตของเรา ผูกโยงและสัมพันธ์กับสรรพสิ่ง ผู้คน และโลก อย่างไร โดยเหตุนี้เองที่เราจะสัมพันธ์กับผู้คนและสิ่งต่างๆ อย่างเหมาะสม เพราะเราเริ่มตระหนักแล้วว่า การใช้ชีวิตของเรา ย่อมส่งผลกระทบต่อผู้คนและสิ่งต่างๆ เหล่านี้

เราจะระมัดระวังมากขึ้นในการกิน การดื่ม การดู การเที่ยว การซื้อ การใช้ การทิ้ง การทำลายของเสีย

ทัศนคติ คุณค่า โลกทัศน์ และสติปัญญาของเราเองก็มีผลกระทบต่อทัศนคติ คุณค่า โลกทัศน์ และสติปัญญาของสังคมอย่างไม่ต้องสงสัย

มนุษย์ร่วมสมัยปัจจุบันขาดการมองอย่างสัมพันธ์เชื่อมโยงระหว่างตนเองกับโลกอยู่มาก เพราะหลงใหลได้ปลื้มไปกับลัทธิปัจเจกนิยมแบบสุดโต่ง ความพิกลพิการบกพร่องในโลกและสังคมกลับกลายเป็นความผิดพลาดของคนอื่น โดยที่ไม่มีตัวเราเกี่ยวข้องอยู่เลย – ก็หากเราสัมพันธ์กับผู้คน สังคม โลก อย่างที่ใช้ทัศนะในการมองแบบเชื่อมโยงแล้ว เราย่อมปฏิเสธความข้องเกี่ยวกับคุณค่า ความผิดพลาด ความเจ็บป่วยของสังคมและโลก ไม่ได้เลย

ปัญหานักการเมืองเลว ข้าราชการคอร์รัปชัน ผู้พิพากษาไม่เท่าทันโลก อัยการไม่มีคุณภาพ ตำรวจไม่มีศักดิ์ศรี ทหารประกอบมิจฉาจ๊อบ สื่อมวลชนไม่มีความรู้ พ่อค้าเอารัดเอาเปรียบ หมอยะโสโอหังไม่ฟังใคร เหล่านี้จะเกิดขึ้นมิได้เลย หากแต่สังคมและ – ตัวเรา มีคุณภาพที่เกื้อหนุนให้เกิดสิ่งเหล่านี้

นึกภาพง่าย-ง่าย หากตัวเราเข้าใจและยอมรับในคุณค่าของสุจริตธรรม ความฉ้อฉลย่อมเกิดขึ้นไม่ได้ และการสอนเรื่องสุจริตธรรมนั้นสอนด้วยปากไม่ได้ ต้องทำให้ดู หากเราทำไม่ได้ ลูกหลานของเราก็อาจจะทำได้หรือไม่ได้ก็ไม่รู้ สังคมที่เต็มไปด้วยความทุจริตฉ้อฉลทั้งการพูดและการกระทำในวันนี้ ต้องแก้ไขในวันนี้ มิฉะนั้นลูกหลานของเราก็จะหมิ่นแคลนได้ในวันหน้า ในฐานที่มอบมรดกหนี้ไว้ให้แก้กองโต เรื่องนี้อาจจะสำคัญเสียยิ่งกว่าการหาโรงเรียนดี-ดี มหาวิทยาลัยดี-ดี งานดี-ดี ให้ลูกหลานเสียอีก

การที่ อองซาน ซูจี ถูกกักบริเวณอยู่นับสิบปี ไม่ใช่เรื่องความน่าเกลียดของรัฐบาลเผด็จการทหารพม่าแต่เพียงอย่างเดียว ตัวเราเอง คนไทย ประเทศไทย อาเซียน ประชาคมโลก ทำอะไรบ้างในช่วงเวลาที่ผ่านมา – เรารู้จักคนพม่านอกเหนือจากการเป็นแรงงานต่างด้าวราคาถูกในประเทศบ้างหรือเปล่า? ประวัติศาสตร์ชาตินิยมในแบบเรียนรุ่นเก่าอาจยังเป็นปิศาจหลอกหลอนจนกระทั่งเราไม่รู้จักคนพม่าในฐานะของมนุษย์ ของเพื่อนบ้าน ของผู้คนที่มีประวัติศาสตร์ร่วมกันในดินแดนอุษาอาคเนย์ ภาพยนตร์การ์ตูนสำหรับเด็กบางเรื่องวาดภาพคนพม่าเหมือนยักษ์ มิหนำยังวาดช้างพม่าเป็นอสุรกาย สิ่งเหล่านี้บอกอะไรเราบ้าง? อะไรหายไปจากดวงตาหรือดวงใจของเรา?

ฤาที่หายไปนั้นคือสายสัมพันธ์เชื่อมโยง?

Back to Top